“เจนเนอราลี่ กรุ๊ป” โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2022 โตตามเป้า - Thailand Smart Content

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Thursday, August 18, 2022

“เจนเนอราลี่ กรุ๊ป” โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2022 โตตามเป้า







“เจนเนอราลี่ กรุ๊ป” โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2022 โตตามเป้า



เจนเนอราลี่ กรุ๊ป เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2022 เป็นไปตามเป้า มีกำไรจากผลการดำเนินงานรวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท สวนกระแสการชะลอตัวของธุรกิจประกันชีวิต ปัจจัยบวกมาจากการปรับพอร์ตผลิตภัณฑ์ให้รับกับความต้องการของลูกค้าที่เน้นความคุ้มครอง เตรียมพร้อมเดินหน้าลุยตลาดครึ่งปีหลัง ชูแนวคิด LIFETIME PARTNER 24 ด้วยการดึงอินไซต์ผู้บริโภคมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ตั้งเป้าปี 2024 มุ่งสู่การเป็นที่ 1 ด้านการสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจจากลูกค้าพร้อมเดินหน้าเคียงข้างลูกค้าอย่างยั่งยืน






นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เปิดเผยในงานประชุมพนักงานประจำปี 2022 (Town Hall) ว่า “ภาพรวมของธุรกิจประกันชีวิตทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 ยังคงชะลอตัวเนื่องจากผลกระทบสถานการณ์เงินเฟ้อ รวมถึงปัจจัยอย่างสถานการณ์โควิด-19 และเหตุความขัดแย้งในต่างประเทศ ส่งผลให้อัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมมีจำนวนลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนในช่วงเดียวกัน แต่ในทางกลับกันผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรก 2022 ของเจนเนอราลี่ กรุ๊ป กลับสวนกระแสดังกล่าว มีอัตราเติบโตตามเป้าที่วางไว้ อันเป็นผลมาจากการปรับพอร์ตเชิงกลยุทธ์โดยเน้นผลิตภัณฑ์ประเภทการให้ความคุ้มครอง และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจโดยมีสัดส่วนของการประกันภัยต่อเพิ่มสูงขึ้น เป็นต้น ภาพรวมของ เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 มีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยมีกำไรจากผลการดำเนินงาน (Operating profit) อยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท (+4.8%) จากผลการดำเนินงานที่เป็นบวกของกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (P&C) การถือหุ้นและกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ คิดเป็นอัตราส่วนรวมอยู่ที่ร้อยละ 92.5 (Combined Ratio, +2.8 p.p.) พร้อมทั้งมีผลกำไรขั้นต้นจากธุรกิจใหม่อยู่ที่ร้อยละ 5.23 (New Business Margin, +0.59 p.p.) เบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 16.1 แสนล้านบาท (Gross Written Premium, +2.4%) ซึ่งเป็นแรงหนุนจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (+8.5%) ส่งผลให้กระแสเงินลงทุนไหลเข้าของธุรกิจประกันชีวิต (Life Net Inflows) อยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท โดยยังคงความสามารถในการชำระหนี้ (Solvency Ratio) อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 233 ตอกย้ำความเป็นผู้นำของเจนเนอราลี่ กรุ๊ป ในฐานะบริษัทประกันและผู้บริหารสินทรัพย์ระดับโลก”

ด้านผลประกอบการของ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ แม้จะมีผลกระทบจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนค่า ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์เงินเฟ้อ หรือภาวะดอกเบี้ยที่มีความผันผวน แต่ก็ทำให้เกิดโอกาสในการที่ผู้เสนอขายจะเข้าไปนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ประเภทสะสมทรัพย์มากยิ่งขึ้น โดยในครึ่งปีแรกนั้นนับว่ามีอัตราเติบโตเป็นไปตามเป้าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้จากการสำรวจโดยบริษัทวิจัยระดับโลกที่ทำการสำรวจความพึงพอใจผู้บริโภค หรือ RNPS (Relational Net Promoter Score) ต่อบริษัทประกันชั้นนำทั่วโลก พบว่า เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เป็นแบรนด์ที่มีคะแนนในการสร้างประสบการณ์และความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง และมีคะแนนมากกว่าค่าเฉลี่ยในตลาดรวม อีกทั้งกว่า 42% จากการสำรวจ ยกให้เจนเนอราลี่เป็นแบรนด์หลักในการตัดสินใจซื้อประกัน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ LIFETIME PARTNER 24 ที่เราพัฒนาธุรกิจโดยมีลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง โดยแผนการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง จะยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์ดังกล่าว พร้อมทั้งนำแนวคิดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) มาปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจ แบ่งออกเป็น 3 แนวทาง คือ EFFORTLESS & CARING EXPERIENCE การยกระดับประสบการณ์ในการดูแลลูกค้าที่แสดงถึงความเอาใจใส่ในด้านต่าง ๆ อาทิ การปรับรูปแบบการแนะนำผลิตภัณฑ์จากตัวหนังสือที่เข้าใจยากสู่การทำวิดีโอเพื่อให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงลูกค้าทุกเพศทุกวัย การส่ง SMS แจ้งเตือนลูกค้าถึงความเคลื่อนไหวต่าง ๆ การแจ้งเคลม หรือเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนผ่านระบบดิจิทัลเพื่อความรวดเร็ว รวมถึงการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายเพื่อไม่ให้ลูกค้าสับสน เป็นต้น แนวทางต่อมาคือ PERSONALIZED VALUE PROPOSITIONS การสร้างมูลค่าเพื่อมอบให้ลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล อาทิ การปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้าแต่ละบุคคล การมอบสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และการสร้างศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์สำหรับผู้สูงวัย เป็นต้น และแนวทางสุดท้าย PHYGITAL ADVICE การให้คำปรึกษาและคำแนะนำตามความต้องการของลูกค้า ด้วยการฝึกอบรมตัวแทนประกันชีวิตให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เพื่อให้คำแนะนำลูกค้าได้อย่างถูกต้องตรงกับความต้องการของลูกค้า

นายบัณฑิต กล่าวต่อว่า “เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ได้ตั้งเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจ โดยภายในปี 2024 จะก้าวสู่การเป็นท็อปแบรนด์ประกันแห่งเอเชีย ซึ่งจะเป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างและสร้างประสบการณ์และความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า และกลายเป็นแบรนด์ประกันชีวิตอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อประกัน”


No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad




Pages