เปิดหลักเกณฑ์ ไฟเขียวผู้ใช้ไฟฟ้ากว่า 23 ล้านราย รับเงินประกันการใช้ไฟคืนได้ตั้งแต่ 25 มี.ค. นี้ - Thailand Smart Content

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Wednesday, March 18, 2020

เปิดหลักเกณฑ์ ไฟเขียวผู้ใช้ไฟฟ้ากว่า 23 ล้านราย รับเงินประกันการใช้ไฟคืนได้ตั้งแต่ 25 มี.ค. นี้





เปิดหลักเกณฑ์ ไฟเขียวผู้ใช้ไฟฟ้ากว่า 23 ล้านราย

รับเงินประกันการใช้ไฟคืนได้ตั้งแต่ 25 มี.ค. นี้


“กกพ.” ร่วม 3 การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการกองทัพเรือ

“ดีเดย์” ผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศกว่า 23 ล้านราย ยื่นตรวจสอบสิทธิ์ และขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 25 มี.ค. นี้เป็นต้นไป ผ่าน 3 ช่องทาง ออนไลน์ แอพพลิเคชั่น คอลเซ็นเตอร์ เน้นย้ำ ยื่นออนไลน์สะดวกสุด สามารถรับเงินผ่านทางระบบได้ต่อเนื่องทันที สนองนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 33,000 ล้านบาทก่อนสิ้นปี


นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ประกาศหลักเกณฑ์คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เรื่อง“การคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก พ.ศ. 2563” จะมีผลบังคับใช้พรุ่งนี้ (20 มี.ค. 63) ส่งผลให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ซึ่งได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการกองทัพเรือ (กฟส.) จะต้องคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าดังกล่าว จำนวนกว่า 23 ล้านรายทั่วประเทศ วงเงินกว่า 33,000 ล้านบาท โดยผู้ใช้ไฟฟ้าต้องแจ้งความประสงค์ขอรับคืน และให้ผู้บริการไฟฟ้าคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 ซึ่งต้องคืนให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าที่วางหลักประกันตามประเภทของขนาดเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า และจะไม่มีการเรียกเก็บเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้าจากผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหม่อีกต่อไป ยกเว้นกรณีเปลี่ยนประเภทผู้ใช้ไฟฟ้าจากประเภทที่ 1 และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 2 ไปเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น






ทั้งนี้ กกพ. และการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ได้หารือและเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มเปิดให้มีการตรวจสอบสิทธิ์ และทยอยคืนเงินประกันฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. เป็นต้นไป ในช่องทางออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยคาดว่าผู้ที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินคืนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการยื่นผ่านระบบแอพพลิเคชั่นเป็นระบบที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง


“กกพ. มีมติเห็นชอบและให้ออกประกาศหลักเกณฑ์เพื่อให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายนำไปใช้เป็นแนวทางคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย และผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประกอบกิจการขนาดเล็กทุกราย ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง และได้ให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเตรียมมาตรการในการรองรับ และอำนวยความสะดวกให้พี่ น้อง ประชาชนอย่างเต็มที่ เนื่องจากครอบคลุมประชาชนจำนวนมาก และเน้นให้เข้าถึงได้อย่างสะดวก ครอบคลุมทุกกลุ่ม พร้อมกับได้มีการพัฒนาช่องทางเพิ่มเติมรองรับผู้ใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก” นายคมกฤช กล่าวระหว่างการแถลงข่าว





นายประเทศ ศรีชมภู รองเลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า สำนักงานได้หารือร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเน้นการดำเนินการผ่านระบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นผู้วางเงินประกัน (ชื่อตรงกับบิลค่าไฟฟ้า) สามารถตรวจสอบสิทธิ์และรับเงินผ่านระบบที่การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจัดเตรียมไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป




วันนี้ เราต้องคำนึงถึงสถานการณ์ของการแพร่ระบาด (COVID-19) ซึ่ง ครม. มีมติเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 ที่ให้ทุกฝ่ายระมัดระวัง ป้องกัน และลดความเสี่ยงที่จะให้ประชาชนเดินทางและเข้าไปในสถานที่

ที่แออัด คับแคบ ดังนั้น เพื่อความสะดวกปลอดภัยในช่วงแรกนี้ ขอให้ผู้ใช้ไฟฟ้าใช้บริการผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง” นายประเทศ กล่าว











นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า สำหรับในช่องทางของ กฟภ. จะเปิดให้ตรวจสอบสิทธิ์ เพื่อขอรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืน และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด



ทั้งนี้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบสิทธิ์และลงทะเบียนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านเว็บไซต์ https://dmsxupload.pea.co.th/cdp/ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป โดยกรอกชื่อ นามสกุล หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า หมายเลขบัตรประชาชน ให้ครบถ้วน และส่งเอกสารหลักฐานผ่านระบบและรอรับเงินตามช่องทางการคืนที่ระบุ ผ่าน Prompt Pay บัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือรับเงินสด ที่สำนักงานการไฟฟ้าทั่วประเทศ ทั้งนี้ จะมี SMS ยืนยันผลการลงทะเบียน และแจ้งผลการคืนเงินให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทราบ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเริ่มจ่ายเงินดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป


นอกจากนี้ ทาง กฟภ. ยังได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อตอบข้อซักถามและข้อสงสัยให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า


เป็นจำนวน 90 คู่สาย ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1129 





นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า กฟน. จะเปิดให้ตรวจสอบสิทธิ์ เพื่อขอรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืน ด้วยการอำนวยความสะดวกให้ครอบคลุมทุกกลุ่มประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า


ในช่องทางที่หลากหลายประกอบด้วย


ช่องทางที่ 1 ลงทะเบียนทางออนไลน์ (เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง) ประกอบด้วยช่องทางต่าง ๆ ดังนี้


§ แอปพลิเคชัน : MEA Smart Life



§ เว็ปไซต์ : www.mea.or.th



§ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA



§ Twitter : @mea_news


§ Line : @meathailand



§ สแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้า (ใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่จดเลขอ่านตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป)



ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์จะได้รับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืนตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป



ช่องทางที่ 2 ลงทะเบียนทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 02-256-3333 จำนวน 50 คู่สาย (ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 – 29 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.00 –15.30 น. ในวันทำการ)


ช่องทางที่ 3 ลงทะเบียน ณ ที่ทำการของการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต (เพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 จึงขอความร่วมมือเริ่มใช้ช่องทางนี้ได้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป)


ในการลงทะเบียนทั้ง 3 ช่องทางดังกล่าว ผู้ขอคืนหลักประกันสามารถเลือกช่องทางการคืนเงินได้ 3 ช่องทางโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ ดังนี้


ช่องทางที่ 1 บัญชีพร้อมเพย์ (Prompt Pay) เฉพาะที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ของผู้วางหลักประกัน


ช่องทางที่ 2 บัญชีธนาคารพาณิชย์ที่มีชื่อตรงกับผู้วางหลักประกันที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือธนาคารกสิกรไทย



ช่องทางที่ 3 เคาน์เตอร์เซอร์วิส (จำนวนเงินไม่เกิน 50,000 บาท)



สำนักงาน กกพ. จะดำเนินนโยบายเพื่อการยกระดับการคุ้มครองสิทธิ และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้ไฟฟ้าให้เกิดความเป็นธรรมสูงสุด นายคมกฤช กล่าวทิ้งท้าย

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad




Pages