ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท เคาะมาตรการช่วยคนไทยเซฟค่าใช้จ่าย ผนึกผู้ผลิตสินค้า
กว่า 58 แบรนด์ดัง จัด “ล็อคราคา!” ลดและล็อค คุ้มค่ายืนราคาเดิม ยาว 1 ปี
กว่า 58 แบรนด์ดัง จัด “ล็อคราคา!” ลดและล็อค คุ้มค่ายืนราคาเดิม ยาว 1 ปี
กรุงเทพฯ 5 เมษายน 2565 – ยืนหนึ่งเคียงข้างคนไทย ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผนึกผู้ผลิตสินค้ากว่า 58 แบรนด์ดัง สร้างปรากฎการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ เปิดตัวมาตรการช่วยคนไทย เซฟค่าใช้จ่าย ประกาศจัด “ท็อปส์ ล็อคราคา!” ลดและล็อคราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค ที่จำเป็น ในชีวิตประจำวัน 190 รายการ มั่นใจดีลราคาดีที่สุด ไม่เปลี่ยนตัวสินค้า ลดและล็อค ยืนราคาเดิมยาวนาน 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 – 31 มีนาคม 2566 ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ ออนไลน์ และ แฟมิลี่มาร์ททุกสาขา ตอกย้ำความคุ้มค่า คุ้มราคา ทุกการจับจ่าย หวังให้คนไทยทุกคนได้ก้าวผ่านทุกวิกฤตไปด้วยกัน
นางสุจิตา เพ็งอุ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ -Large Format บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
ที่ยาวนานถึง 3 ปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศในระดับมหภาคและยังส่งผลต่อภาคประชาชนในด้านการดำรงชีพ สภาพคล่องทางการเงิน ผนวกกับแนวโน้มสภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ตามราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น (น้ำมันเชื้อเพลิง ค่ากระแสไฟฟ้า) ซึ่งจะส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในบางหมวดหมู่ ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อในปี 2565 ยังคงมีความเสี่ยงและเคลื่อนไหวในช่วงกว้าง
ทำให้ประชาชนคนไทยยังต้องระมัดระวังในการจับจ่าย (ที่มา : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ในฐานะผู้นำค้าปลีกชั้นนำของไทยตามปณิธานการดำเนินธุรกิจ ‘ยืนหยัด เคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์’ ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ทในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชน ลดค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง เป็นค้าปลีกรายแรกของไทยที่ริเริ่มจัดแคมเปญ “ล็อคราคา”
ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ผ่านการหมุนเวียนสินค้าในหมวดหมู่ต่างๆ จำหน่ายในราคาพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด แม้ว่าประชาชนจะมีความระมัดระวังในการจับจ่ายแต่ก็
มองหาความคุ้มค่าเมื่อต้องซื้อสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีพ ทำให้ “สินค้าล็อคราคา” ได้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเป็นกลยุทธ์ด้านราคา คัดสินค้าที่จำเป็น มีคุณภาพ จำหน่ายในราคาสุดคุ้ม”
ที่ยาวนานถึง 3 ปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศในระดับมหภาคและยังส่งผลต่อภาคประชาชนในด้านการดำรงชีพ สภาพคล่องทางการเงิน ผนวกกับแนวโน้มสภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ตามราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น (น้ำมันเชื้อเพลิง ค่ากระแสไฟฟ้า) ซึ่งจะส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในบางหมวดหมู่ ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อในปี 2565 ยังคงมีความเสี่ยงและเคลื่อนไหวในช่วงกว้าง
ทำให้ประชาชนคนไทยยังต้องระมัดระวังในการจับจ่าย (ที่มา : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ในฐานะผู้นำค้าปลีกชั้นนำของไทยตามปณิธานการดำเนินธุรกิจ ‘ยืนหยัด เคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์’ ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ทในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชน ลดค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง เป็นค้าปลีกรายแรกของไทยที่ริเริ่มจัดแคมเปญ “ล็อคราคา”
ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ผ่านการหมุนเวียนสินค้าในหมวดหมู่ต่างๆ จำหน่ายในราคาพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด แม้ว่าประชาชนจะมีความระมัดระวังในการจับจ่ายแต่ก็
มองหาความคุ้มค่าเมื่อต้องซื้อสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีพ ทำให้ “สินค้าล็อคราคา” ได้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเป็นกลยุทธ์ด้านราคา คัดสินค้าที่จำเป็น มีคุณภาพ จำหน่ายในราคาสุดคุ้ม”
“เพื่อคงมาตรการช่วยเหลือประชาชนลดค่าครองชีพ กระตุ้นการจับจ่ายของภาคประชาชน
ให้คล่องตัว “ล็อคราคา” ซีซั่นใหม่จึงกลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่และคงความคุ้มค่ายาวนานถึง 1 ปี ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคกว่า 58 แบรนด์ชั้นนำ คัดสรรสินค้า 190 รายการ เข้าร่วมแคมเปญ “ท็อปส์ ล็อคราคา!” ลดและล็อคราคา โดยเชื่อมั่นว่าสินค้าล็อคราคา คือ ราคาที่ดีที่สุด (Best Deal) ด้วยเป็นความตั้งใจร่วมกันของท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท ในฐานะค้าปลีกผู้จำหน่ายสินค้า
และแบรนด์ต่าง ๆ ในฐานะผู้ผลิตสินค้า เป็นครั้งแรกของความร่วมมือในวงการค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ต
ที่กล้าประกาศลดและล็อคราคาสินค้าตัวเดิม มาวันไหนก็จำหน่ายราคาเดิมนานถึง 1 ปี ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในสภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่าย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินไปข้างหน้า”
สำหรับสินค้า“ล็อคราคา” รอบนี้ “ลด” และ “ล็อคราคา” ครอบคลุมสินค้าทุกหมวดหมู่ ได้แก่
กลุ่มสินค้าอาหารสด เบเกอรี่ อาหารพร้อมทาน, กลุ่มสินค้าผัก-ผลไม้, กลุ่มสินค้าเนื้อสัตว์-อาหารทะเล, กลุ่มสินค้าขนมและเครื่องดื่ม, กลุ่มสินค้าอาหารแห้งและเครื่องปรุง, กลุ่มสินค้าทำความสะอาดและของใช้ ในบ้าน, กลุ่มสินค้าแม่และเด็ก, กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม อาทิ
เริ่มลดและล็อคราคาพร้อมกันทั่วประเทศ ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่และ แฟมิลี่มาร์ททุกสาขาและท็อปส์ ออนไลน์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand , FamilyMartThailand หรือไลน์@TopsThailand และ @FamilyMartThailand
ให้คล่องตัว “ล็อคราคา” ซีซั่นใหม่จึงกลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่และคงความคุ้มค่ายาวนานถึง 1 ปี ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคกว่า 58 แบรนด์ชั้นนำ คัดสรรสินค้า 190 รายการ เข้าร่วมแคมเปญ “ท็อปส์ ล็อคราคา!” ลดและล็อคราคา โดยเชื่อมั่นว่าสินค้าล็อคราคา คือ ราคาที่ดีที่สุด (Best Deal) ด้วยเป็นความตั้งใจร่วมกันของท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท ในฐานะค้าปลีกผู้จำหน่ายสินค้า
และแบรนด์ต่าง ๆ ในฐานะผู้ผลิตสินค้า เป็นครั้งแรกของความร่วมมือในวงการค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ต
ที่กล้าประกาศลดและล็อคราคาสินค้าตัวเดิม มาวันไหนก็จำหน่ายราคาเดิมนานถึง 1 ปี ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในสภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่าย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินไปข้างหน้า”
สำหรับสินค้า“ล็อคราคา” รอบนี้ “ลด” และ “ล็อคราคา” ครอบคลุมสินค้าทุกหมวดหมู่ ได้แก่
กลุ่มสินค้าอาหารสด เบเกอรี่ อาหารพร้อมทาน, กลุ่มสินค้าผัก-ผลไม้, กลุ่มสินค้าเนื้อสัตว์-อาหารทะเล, กลุ่มสินค้าขนมและเครื่องดื่ม, กลุ่มสินค้าอาหารแห้งและเครื่องปรุง, กลุ่มสินค้าทำความสะอาดและของใช้ ในบ้าน, กลุ่มสินค้าแม่และเด็ก, กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม อาทิ
เริ่มลดและล็อคราคาพร้อมกันทั่วประเทศ ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่และ แฟมิลี่มาร์ททุกสาขาและท็อปส์ ออนไลน์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand , FamilyMartThailand หรือไลน์@TopsThailand และ @FamilyMartThailand
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,599 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 57 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 40 จังหวัด, และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564)
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,599 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 57 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 40 จังหวัด, และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564)
No comments:
Post a Comment