กสิกรไทย ไพรเวทแบงก์ ฝ่ามรสุมโควิด 19 โชว์พอร์ตลงทุนลูกค้าโตกว่า 9%* เชื่อมั่นกลยุทธ์การลงทุนประสบความสำเร็จในทุกสภาวะตลาด
KBank Private Banking ประกาศความสำเร็จ พาพอร์ตลงทุนที่แนะนำลูกค้าเติบโต 9%* ฝ่าวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 มั่นใจกลยุทธ์การลงทุนที่นำเสนอสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างยั่งยืนสม่ำเสมอในทุกสภาพเศรษฐกิจ พร้อมประกาศสานต่อกลยุทธ์ 3S ยึดแนวคิดลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainability) เปิดมิติใหม่ของกิจกรรมสาธารณกุศล (Sharing) เสริมโอกาสลงทุนในธุรกิจแห่งอนาคตทั่วโลก (New S-Curve) ในปี 2564 มั่นใจรั้งตำแหน่งผู้นำไพรเวทแบงกิ้งไทย
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า "จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลให้ราคาหุ้นทั่วโลกปรับลดลงแรงในช่วงต้นปี ก่อนที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จนหลายๆ ตลาดปรับตัวสูงขึ้นกว่าก่อนการแพร่ระบาดด้วยซ้ำ เช่น ตลาดหุ้นจีน A-Share ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นญี่ปุ่น ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ธนาคารฯ ก็ยังเชื่อมั่นในกลยุทธ์การลงทุนด้วยหลักการกระจายความเสี่ยงทั้งใน Core และ Satellite ซึ่งหลากหลายกองทุนที่ธนาคารฯ แนะนำสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น เช่น กองทุน K-GA กองทุน K-CCTV ที่เป็นการรวมหุ้นจีน A-shares กองทุน K-CHANGE ที่เป็นกองทุนรวมหุ้นที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก และ กองทุน K-HIT ที่รวมหุ้น 4 Mega trends เป็นต้น ทั้งนี้กลยุทธ์การลงทุนของธนาคารฯ ยังคงแนะนำให้ลูกค้าถือพอร์ต K-Alpha ต่อ ควบคู่กับพอร์ต Aspiration ที่เน้นการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternatives) และเน้นการลงทุนระยะยาว โดยในปี 2563 นี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 9%*"
"ตลอดปีนี้ ธนาคารฯ ยังคงสานต่อกลยุทธ์ 3S ต่อเนื่อง โดย S แรกคือ Sustainability ผ่านการแนะนำการลงทุนด้วยเป้าหมายที่มีความยั่งยืน ทั้งการมองหาและริเริ่มการลงทุนที่สร้างผลกระทบในเชิงบวก (Positive Investment) ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม S ที่สอง คือ Sharing เพราะธนาคารฯ เชื่อว่าบุคคลและสังคมต้องเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน ธนาคารฯ จึงร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งองค์กรสาธารณกุศล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุน และสร้างความกลมเกลียวให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างยั่งยืน และ S ที่สาม คือ New S-Curve โดยธนาคารฯ เปิดโอกาสต่อยอดความมั่งคั่งให้กับลูกค้า เช่น การลงทุนในธุรกิจแห่งอนาคตที่ต่างประเทศผ่านทางกองทุนรวม"
ล่าสุด KBank Private Banking วางแผนจัดงาน Perfect Wealth Perfect Night Special Concert: คอนเสิร์ตสุดพิเศษ ในค่ำคืนแห่งการแบ่งปัน เพื่อประกาศเจตนารมย์ในการเข้าไปช่วยเหลือองค์กรสาธารณกุศลในประเทศไทย โดย KBank Private Banking จะประสานระหว่างกลุ่มผู้ให้และผู้รับเพื่อนำเงินทุนของผู้ให้ส่งต่อไปยังผู้รับอย่างเป็นระบบ อีกทั้ง KBank Private Banking จะนำองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการเงินลงทุนเข้าไปช่วยเหลือองค์กร สาธารณกุศลให้มีความเข้มแข็ง และมีระบบจัดการบริหารสินทรัพย์อย่างยั่งยืน
"สำหรับบริการที่ปรึกษาด้านการบริหารสินทรัพย์ครอบครัว(Family Wealth Planning Service) ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าของธนาคารในเชิงลึกและเปิดโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยในปี 2564 มีแผนที่จะเพิ่มบริการในเรื่องการช่วยจัดตั้งสำนักงานครอบครัว (Family Office) และงานด้านสาธารณกุศล (Philanthropy) รวมถึงการจัดกิจกรรมการลงทุนตามความชอบ (Passion Investment) เช่น การสะสมงานศิลปะ พระเครื่อง เป็นต้น นอกจากนี้ บริการที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Advisory Service) ที่ให้คำปรึกษาเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดิน จากที่ได้พูดคุยกับลูกค้าที่กังวลเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พบว่ากว่า 90% เป็นที่ดินที่ยังรอ และยังไม่พร้อมพัฒนา ซึ่งทำให้ลูกค้าต้องเสียภาษีในอัตราสูง ธนาคารฯ จึงเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ Land Loan for Investment จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของธนาคารฯ ได้ โดยปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 100 รายให้ความสนใจ โดยธนาคารฯ อนุมัติวงเงินไปแล้วประมาณ 9,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างดำเนินการอีกกว่า 5,000 ล้านบาท"
"การดำเนินธุรกิจ KBank Private Banking ในปี 2563 ยังเติบโต โดยมีจำนวนลูกค้าราว 12,000 ราย สินทรัพย์ภายใต้การจัดการทั้งหมดประมาณ 8 แสนล้านบาท โดยมีสินทรัพย์ลงทุนรวมประมาณ 5.4 แสนล้านบาท หรือประมาณ 67% สำหรับปี 2563 ธนาคารฯ ยังสานต่อการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคลที่ครบถ้วนที่สุดในประเทศไทย ความภูมิใจสูงสุดของธนาคารฯ ในปีนี้ก็คือการเป็นผู้ให้บริการไพรเวทแบงกิ้งที่ได้รับรางวัลมากที่สุด รวม 15 รางวัล จาก 9 สถาบันระดับสากลทั่วโลก อาทิ รางวัล Best Private Bank ของประเทศไทย จากหลายสถาบัน เช่น The Asset Triple A, PWM/The Banker และ Finance Asia รวมถึง รางวัล Best Private Bank for Portfolio Management Technology ของภูมิภาคเอเชีย จาก PWM ที่สะท้อนความเป็นผู้นำระดับเอเชีย ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการพอร์ตการลงทุนให้กับลูกค้า นอกจากนี้ธนาคารฯ ยังได้รับ Thailand - Best for ESG (Environment Social Governance) จาก Asia Money ซึ่งถือว่า ธนาคารฯ เป็นผู้นำในเมืองไทยที่เน้นมิติในด้านสิ่งแวดล้อม และการดำเนินการอย่างโปร่งใส" นายจิรวัฒน์ กล่าวปิดท้าย
No comments:
Post a Comment