นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a Beautiful Life เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจด้วยนโยบาย International Beauty & Health Business เพื่อยกระดับแบรนด์สินค้าภายใต้การจำหน่ายของบริษัทเข้าสู่การเป็นแบรนด์ด้านความงามและสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจและแผนการดำเนินงานของบริษัทจะมุ่งเน้นใน 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย
1. เพิ่มความสามารถการทำกำไร (Strengthening profitability both domestic and overseas business) : โดยมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนกำไรจากช่องทางจัดจำหน่ายต่างประเทศและบริหารจัดการต้นทุนช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศให้มีประสิทธิภาพ
2. ขยายตลาดต่างประเทศเชิงรุก (Overseas: Cultivating and expanding overseas business) จำนวน 16 ประเทศ โดยมี 13 ประเทศที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในปี 2562 ซึ่งจะเน้นการทำการตลาดร่วมกันและเพิ่มจำนวน SKUs สินค้า และมีอีก 5 ประเทศหลักที่เน้นการทำการตลาดเฉพาะในปี2563 มีแผนจะ-พัฒนาช่องทางการตลาดและการขายเข้มข้น คือ ประเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย พม่า อินเดีย ฟิลิปปินส์ ในรูปแบบของตัวแทนจำหน่าย Product Distributor ,Shop Licence , Shop in Shop หรือ Counter sales
2. ขยายตลาดต่างประเทศเชิงรุก (Overseas: Cultivating and expanding overseas business) จำนวน 16 ประเทศ โดยมี 13 ประเทศที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในปี 2562 ซึ่งจะเน้นการทำการตลาดร่วมกันและเพิ่มจำนวน SKUs สินค้า และมีอีก 5 ประเทศหลักที่เน้นการทำการตลาดเฉพาะในปี2563 มีแผนจะ-พัฒนาช่องทางการตลาดและการขายเข้มข้น คือ ประเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย พม่า อินเดีย ฟิลิปปินส์ ในรูปแบบของตัวแทนจำหน่าย Product Distributor ,Shop Licence , Shop in Shop หรือ Counter sales
ขณะเดียวกันบริษัทเน้นการรุกตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน(Mainland China)ต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนศึกษาการสร้างฐานธุรกิจในประเทศจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขยายตลาด และเพื่อความสะดวกในการพัฒนาสินค้าใหม่และการบริหารจัดการตลาดในประเทศจีน เพราะเล็งเห็นว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่มีโอกาสทางธุรกิจสูง อีกทั้งบริษัทมีแผนเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจากช่องทางจำหน่ายร้านค้าทั่วไป ( General Trade )เช่น คอนวีเนียนสโตร์ โมเดิร์นเทรดต่างๆ และช่องทางออนไลน์ที่เป็นอีคอมเมิรซ์ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการขาย -นอกจากนั้นได้ขยายจำนวนสินค้าใหม่ๆเข้าไปจำหน่ายในช่องทาง Cross Border E-Commerce อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2562 บริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายแล้วจำนวน 10 Platforms และในปีนี้มีแผนเจรจาเพิ่มจำนวน Platform อีกต่อเนื่อง
3. ตลาดในประเทศมุ่งเน้นขยายตลาดกลุ่มสินค้าอุปโภค และสร้างความเข้มแข็งช่องทางร้านค้าปลีก (Domestic : Expanding distribution channels for Consumer Products and improving retail business) ตลาดในประเทศ มุ่งเน้นขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆที่มีโอกาสเติบโตสูงและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ที่ไม่จำกัดเฉพาะร้านสาขา พร้อมขยายกลุ่มสินค้าอุปโภค (Consumer Product) และสินค้าสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยมีแผนจะพัฒนาสินค้าด้านสุขภาพร่วมกับผู้ผลิตสินค้าชั้นนำด้านนี้เพิ่มขึ้นอีกทั้งยังมุ่งเน้นเพิ่มช่องทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อเปิดช่องทางจัดจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ช่องทางร้านค้าปลีก (Retail Business Models) มุ่งเน้นการเพิ่มอัตราการเติบโตสาขาที่มีศักยภาพ พัฒนาปรับปรุงและสร้างความเข้มแข็งให้ช่องทางร้านค้าปลีก พร้อมทั้งบริหารจัดการต้นทุนในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการบริหารร้านค้าปลีกเน้นการทำการตลาดได้ด้วยตัวร้านค้าปลีกเอง (Local Store Marketing) ,สร้างโมเดลการขายสินค้าที่เป็นสินค้า Multi Brand เข้ามาจำหน่ายในร้าน Beauty Buffet เพื่อจำหน่ายสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุม ปัจจุบันบริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 311 สาขา
ช่องทางอีคอมเมิร์ซ( E-Commerce) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงพัฒนาและบริหารจัดการโครงสร้างระบบอีคอมเมิร์ซให้มีประสิทธิภาพ วางเป้าหมายรุกตลาดออนไลน์ ด้วยกลยุทธ์ O2O และพันธมิตร รวมถึงพัฒนาระบบรองรับพฤติกรรมการจับจ่ายผ่านมือถือของบริษัทเอง ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยผลักดันให้บริษัทมีรายได้เติบโตก้าวกระโดด
มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าหลัก- (Product Driven) ขับเคลื่อนยอดขายให้เติบโตโดยการสร้าง Product Heros ที่มีกระแสดึงดูดลูกค้าทั้งสินค้าเดิมที่มีอยู่แล้วและสินค้าใหม่ เน้นสินค้าที่เป็นอินโนเวชั่นตามเทรนด์แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากการดำเนินงานในปี 2562 ถือเป็นการปรับธุรกิจตามยุทธศาสตร์ใหม่ บริษัทได้พัฒนาตลาด วางรากฐานช่องทางในตลาดต่างประเทศ ,สินค้ากลุ่มอุปโภค รวมถึงการวางแนวทาง E-Commerce ชัดเจนเพื่อเป็นฐานการขยายตลาดในปี 2563 และสำหรับภาพรวมธุรกิจเครื่องสำอางปี 2563 คาดว่ายังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความงาม สุขภาพและผิวพรรณต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสุขภาพมีความหลากหลายเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ ซึ่งในปีนี้ BEAUTY วางเป้าหมายรายได้เติบโต 20% พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิ 15%
ช่องทางร้านค้าปลีก (Retail Business Models) มุ่งเน้นการเพิ่มอัตราการเติบโตสาขาที่มีศักยภาพ พัฒนาปรับปรุงและสร้างความเข้มแข็งให้ช่องทางร้านค้าปลีก พร้อมทั้งบริหารจัดการต้นทุนในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการบริหารร้านค้าปลีกเน้นการทำการตลาดได้ด้วยตัวร้านค้าปลีกเอง (Local Store Marketing) ,สร้างโมเดลการขายสินค้าที่เป็นสินค้า Multi Brand เข้ามาจำหน่ายในร้าน Beauty Buffet เพื่อจำหน่ายสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุม ปัจจุบันบริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 311 สาขา
ช่องทางอีคอมเมิร์ซ( E-Commerce) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงพัฒนาและบริหารจัดการโครงสร้างระบบอีคอมเมิร์ซให้มีประสิทธิภาพ วางเป้าหมายรุกตลาดออนไลน์ ด้วยกลยุทธ์ O2O และพันธมิตร รวมถึงพัฒนาระบบรองรับพฤติกรรมการจับจ่ายผ่านมือถือของบริษัทเอง ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยผลักดันให้บริษัทมีรายได้เติบโตก้าวกระโดด
มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าหลัก- (Product Driven) ขับเคลื่อนยอดขายให้เติบโตโดยการสร้าง Product Heros ที่มีกระแสดึงดูดลูกค้าทั้งสินค้าเดิมที่มีอยู่แล้วและสินค้าใหม่ เน้นสินค้าที่เป็นอินโนเวชั่นตามเทรนด์แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากการดำเนินงานในปี 2562 ถือเป็นการปรับธุรกิจตามยุทธศาสตร์ใหม่ บริษัทได้พัฒนาตลาด วางรากฐานช่องทางในตลาดต่างประเทศ ,สินค้ากลุ่มอุปโภค รวมถึงการวางแนวทาง E-Commerce ชัดเจนเพื่อเป็นฐานการขยายตลาดในปี 2563 และสำหรับภาพรวมธุรกิจเครื่องสำอางปี 2563 คาดว่ายังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความงาม สุขภาพและผิวพรรณต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสุขภาพมีความหลากหลายเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ ซึ่งในปีนี้ BEAUTY วางเป้าหมายรายได้เติบโต 20% พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิ 15%
No comments:
Post a Comment